7 สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อนักเรียนจะสมัครเรียนต่อที่จีน

การเรียนต่อที่ประเทศจีนเป็นโอกาสที่ดี และเป็นความฝันของหลาย ๆ คน ที่เราจะได้ไปเรียนรู้ ไปใช้ชีวิตและได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีน น้อง ๆ คนไหนที่มีแผนอยากไปเรียนต่อจีน วันนี้พี่ ๆ CASC ได้รวบรวมประสบการณ์ของรุ่นพี่ ว่าสิ่งใดที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อสมัครเรียนต่อจีน รับรองว่าอ่านจบพร้อมไปเรียนต่อจีนแน่นอน

7 สิ่งที่ต้องทำ

#1 ศึกษาสาขาและมหาวิทยาลัยที่เราอยากสมัครเรียน

ในการเรียนต่อเราจะใช้เวลานานกว่า 2-6 ปี เป็นเวลานานที่เราจะใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เราเลือก พี่อยากให้ใช้เวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลว่าเราชอบวิชาใด น้อง ๆ ควรตรวจสอบภาพรวมหลักสูตร ว่าจะเรียนอะไรบ้าง รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น วุฒิการศึกษา ผลการเรียน คะแนนทดสอบทางภาษา และอย่าลืมส่งอีเมลหาทางมหาวิทยาลัยเพื่อสอบถามรายละเอียดคณะ-สาขา วันปิดรับสมัคร น้อง ๆ คงสงสัยว่าทำไมต้องส่งอีเมลด้วยล่ะ ? นั่นเป็นเพราะเว็บไซต์ของบางมหาวิทยาลัยไม่ได้อัพเดทข้อมูลการรับสมัครปัจจุบัน หรือมีการอัพเดทล่าช้า ซึ่งทำให้เราพลาดโอกาสในการสมัครเรียนได้

#2 หาที่อยู่อาศัยเมื่อผ่านการสมัครเรียนแล้ว

การเลือกที่พักสำคัญมากในการเรียนต่อ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เราใช้พักกาย พักใจ ดังนั้นต้องหาที่พักที่เหมาะกับตัวเราและมีค่าใช้จ่ายเหมาะสม ที่พักที่เป็นที่นิยมก็คือหอพักของมหาวิทยาลัย หรือ 'หอใน' เหมาะสมและปลอดภัย แต่น้องมักจะต้องแชร์ห้องกับเพื่อน 1-2 คน หรือใครอยากอยู่หอพักนักศึกษาเอกชน หรือ ‘หอนอก’ ราคาก็จะแพงกว่าหอใน รุ่นพี่หลายคนที่อยากมีประสบการณ์หลากหลายจะอาศัยอยู่หอในเป็นเวลา 1 หรือ 2 ปีเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย จากนั้นจึงเลือกเช่าหอนอกเพื่ออยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อน สิ่งที่น้อง ๆ ควรรู้ คือ ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยที่มีหอพักนักศึกษา เราจึงต้องหาข้อมูลที่พักเพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกลวงให้จ่ายเงินเกินจริงหรือปัญหาอื่น ๆ

#3 ฝึกพูดจีนขั้นพื้นฐานเพื่อคุยกับคนจีน หรือเผื่อสอบสัมภาษณ์

ภาษาจีนเป็นภาษาที่มาแรงมากในขณะนี้ การพูดภาษาจีนขั้นพื้นฐานที่เราสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้จะเปิดโอกาสในด้านการเรียน การท่องเที่ยว การหาเพื่อนใหม่ เพื่อนในระหว่างเรียนที่จีนสำคัญมาก เรามักจะแบ่งปันชีวิตใหม่ด้วยกัน พี่อยากให้น้องๆทำกิจกรรมและติดต่อกับเพื่อนหรือรุ่นพี่ จะสามารถช่วยน้องเพิ่มโอกาสในอาชีพการงานได้ ไม่แน่ เพื่อนซี้ของเราอาจเป็นคนจีนก็ได้นะ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยบางแห่งจะต้องมีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาแรงจูงใจในการเรียน จะเห็นได้ว่าการพูดภาษาจีนขั้นพื้นฐานได้จะช่วยให้ชีวิตการเรียนต่อของเราง่ายขึ้นมาทันที

#4 วางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย

สิ่งที่สำคัญมากก่อนไปเรียนต่อจีน คือ การวางแผนค่าใช้จ่ายทั้งก่อนเดินทางไปประเทศจีน เช่น ค่าสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ค่าตรวจสุขภาพ และค่าใช้จ่ายเมื่อเดินทางไปถึงประเทศจีน เช่น ค่าครองชีพในเมืองที่จะไปเรียนต่อ หากเป็นในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ ๆ ค่าครองชีพก็จะสูงกว่าเมืองอื่น นอกจากนี้ยังมีค่าเทอม ค่าหนังสือเรียน ค่าหอพัก ค่าเดินทาง เพื่อประมาณและวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในแต่ละเดือน การจัดทำงบประมาณจะทำให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยอย่าลืมแปลงอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทเป็นเงินหยวนด้วยนะคะ

#5 เตรียมเอกสารให้พร้อม

เมื่อเรายื่นสมัครเรียนต่อจีน การเตรียมเอกสารตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้เราได้เปรียบอย่างมาก หากมีเอกสารใดผิดปกติเราจะได้แก้ไขได้ทัน หนึ่งปีก่อนออกเดินทางอาจดูเหมือนเร็ว แต่มีหลากหลายขั้นตอนในการดำเนินการ เช่น สมัครพาสปอร์ต ยื่นขอวีซ่า Admission Notice ควรประสานงานให้เร็วที่สุด เมื่อน้อง ๆ ยื่นใบสมัครและมหาวิทยาลัยได้ส่งใบตอบรับเข้าเรียนแล้ว (JW201- JW202) และจะแจ้งว่าเราต้องขอวีซ่า X1 หรือ X2 เราต้องขอวีซ่าให้ถูกประเภทเพื่อเดินทางไปเรียนต่อที่จีน วีซ่านักเรียนจีนมีประเภท X1 และ X2 (X1 คือ นักเรียนที่มีหลักสูตรการเรียนระยะเวลาเกิน 180 วัน ส่วน X2 จะมีระยะเวลาสั้นกว่า 180 วัน) นอกจากนี้ยังมี ใบรับรองสุขภาพ ใบรับรองไม่มีประวัติอาชญากรรม ใบรับรองความสามารถทางภาษา ใบผลการเรียน และอื่นๆ เรียกได้ว่า มีเยอะพอสมควร น้องต้องลิสต์รายการเอกสารไว้ไม่ให้พลาดเลย

#6 ฝึกทักษะการใช้ชีวิต

เมื่อเราสมัครเรียนต่อจีนนั้น หมายความว่าเราต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เจอกับความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง น้องๆบางคนอาจคิดถึงอาหารที่เคยกินที่ไทย หรืออยากประหยัดเงิน จึงควรฝึกทักษะการทำอาหารเมนูง่าย ๆ ที่อร่อยตรงใจเรา ทักษะการพูดภาษาจีน ทักษะการแปลงหน่วยแปลงค่าเงิน ทักษะการเข้าห้องน้ำแบบส้วมซึม ที่จีนเราอาจต้องเจอกับส้วมซึมบ่อย ๆเลยล่ะ และทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ทักษะการเอาชีวิตรอด เช่น การ CPR การว่ายน้ำ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทักษะเหล่านี้สำคัญมากๆในสถานการณ์ฉุกเฉิน อยากให้น้องๆได้ฝึกไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตในโลกกว้าง

#7 เตรียมร่างกายให้พร้อมทั้งกายและใจ

เหตุที่น้อง ๆ ต้องเตรียมร่ายกายทั้งสุขภาพกายให้พร้อม ก็เพื่อเตรียมพร้อมในการเรียน เปิดรับประสบการณ์ใหม่ สิ่งที่ดีที่สุดของการใช้ชีวิตในต่างประเทศ คือ การท่องเที่ยว ลองอาหารรสชาติอร่อยในแต่ละเมืองของจีน และสัมผัสวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์แปลกใหม่ ได้โดยตรง ในขณะที่ศึกษาในประเทศจีน น้องจะได้พบกับผู้คน ที่อยากจะทำความรู้จัก เรียนรู้ กันเรา จากประสบการณ์ของรุ่นพี่เคยไปเรียนต่อที่จีน บอกว่าคนจีนมักจะอยากทำความรู้จักกับคนไทย และอยากฟังเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในประเทศไทยมาก จึงเป็นโอกาสที่เราจะได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อใจกับเพื่อนใหม่แน่นอน

7 สิ่งที่ไม่ควรทำ

#1 รอสอบภาษารอบท้ายๆ

การไปสมัครเรียนต่อจีนนั้น ส่วนใหญ่มักต้องใช้คะแนนภาษา ไม่ว่าจะเป็นสอบ HSK , IELTS , TOEFL , TOEIC เป็นการพิจารณาในการรับนักศึกษาเพื่อให้ทางมหาวิทยาลัยที่รับมั่นใจได้ว่านักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนนั้นจะสามารถสื่อสารและเข้าใจในหลักสูตรการเรียนแบบครบถ้วน และเพื่อให้ได้คะแนนที่ดี น้องบางคนจะตั้งใจอ่านหนังสือให้เต็มที่และรอไปสอบภาษาในรอบท้าย ๆ ซึ่งพี่ไม่แนะนำ เพราะในบางครั้งตารางสอบอาจมีความไม่แน่นอน และคลาดเคลื่อนได้ เพราะฉะนั้นเราต้องจัดสรรเวลาให้รอบคอบ เพื่อไปสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

#2 ไม่หาข้อมูลและไม่ปรึกษาหรือขอคำแนะนำใครเมื่อมีปัญหา

จะเกิดอะไรขึ้นหากเราไม่หาข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่เราตั้งใจจะไปเรียน, วัฒนธรรมของประเทศจีน , ค่าเงินและค่าใช้จ่ายต่างๆ ฯลฯ อาจจะทำให้น้องเจอสิ่งไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อน และเมื่อทุกข์ใจ อย่าลืมว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว มีรุ่นพี่และพี่แนะแนวมากมายที่ CASC พร้อมที่จะช่วยเหลือน้องตลอดระยะเวลาการเรียนต่อ นอกจากนี้ ยังมีผู้คนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ อาจารย์ในสถาบันที่สามารถให้เราขอความช่วยเหลือได้ มหาวิทยาลัยต้องเคยประสบเหตุการณ์หรือปัญหาที่เราเจอมาก่อนแล้ว อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือหรือปรึกษาใคร ปัญหาจะได้คลี่คลายได้เร็วขึ้น

#3 ไม่ทำงบประมาณค่าใช้จ่าย

นักเรียนส่วนใหญ่ที่วางแผนไปเรียนต่างประเทศมักจะทำงบประมาณค่าใช้จ่ายเพราะมีงบที่จำกัด ไม่ใช่แค่ค่าเรียนที่เราควรพิจารณาเท่านั้น ให้นึกถึงค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าของใช้ในมหาวิทยาลัย และอื่น ๆ การไม่ทำงบประมาณอาจทำให้เราพลาดค่าใช้จ่ายบางอย่างไป หรือเผลอใช้ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งมากเกินไป การทำงบประมาณทำให้รู้คร่าว ๆ ว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายไปกับอะไรที่เป็นประจำในแต่ละเดือน ซึ่งจะทำให้เราได้วางแผนเกี่ยวกับการใช้เงินในอนาคตได้ง่ายขึ้น หากเราจัดการในส่วนนี้ได้ดี อาจทำให้น้องมีเงินออมกลับบ้านหรือมีเงินช้อปปิ้งมากขึ้นด้วย

#4 อย่าทำเอกสารสำคัญหาย หรือส่งเอกสารผิด

เอกสารสำคัญทั้งหมด เช่น เอกสารวีซ่า หนังสือเดินทาง และเอกสารทางการเงิน ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ควรเก็บไว้อย่างปลอดภัย และถ่ายเอกสารที่สำคัญเพื่อเก็บข้อมูลสำรองเอาไว้ จัดเก็บเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ในลิ้นชักที่มีกุญแจ โดยควรล็อกไว้ตลอดเวลา เมื่อเดินทางภายในประเทศจีน ให้เก็บเอกสารการเดินทางของน้อง ไว้พร้อมใช้ และระวังเรื่องเอกสารในการส่งให้มหาวิทยาลัย ต้องแน่ใจว่าเอกสารทั้งหมดจะต้องได้รับการแปลเป็นภาษาราชการของจีน และรับรองความถูกต้องอย่างเป็นทางการแล้ว

#5 อย่าสูญเสียโฟกัสของตน

เมื่อคิดถึงการไปเรียนต่อจีนแล้วเราอาจตื่นเต้นและตกหลุมรักเมืองจีนมากกว่าที่คิด อีกทั้งคนจีนก็ยังน่ารักมาก ๆ ในขณะที่เมืองที่เราไปเรียนมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว แสงไฟยามกลางคืน วิวทิวทัศน์ ที่ทำให้เราอยากท่องโลกกว้างทุกวัน ในขณะที่เรามีสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้ทำ แต่มันก็ง่ายมากที่จะหลงทางและหลุดโฟกัส พึงคิดไว้ว่าการศึกษาของเรามีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นน้องจึงควรจัดสรรเวลาการเรียน และการใช้ชีวิต ให้เหมาะสมและแน่ใจว่าเราจะบรรลุเป้าหมายการศึกษา โดยรักษาชีวิตการเรียนและความบันเทิงให้สมดุลตลอดเวลา

#6 ละเลยทุนการศึกษา

เมื่อเราไปเรียนต่อจีนสิ่งที่จะช่วยสนับสนุนเราอีกทาง คือ ทุนการศึกษา ที่จีนมีทุนการศึกษาหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนรัฐบาล CSC หรือทุนมหาวิทยาลัย จะเห็นได้ว่าเรามีตัวเลือกมากมายที่จะช่วยสนับสนุนค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าประกันสุขภาพ ค่าครองชีพรายเดือน เรียกได้ว่าครอบคลุมสุด ๆ น้อง ๆ ควรที่จะคว้าไว้เมื่อมีโอกาส หากน้องคนไหนมีคุณสมบัติใกล้เคียงตามเกณฑ์ที่ทุนกำหนดไว้ ก็ควรลองสมัครทันที นอกจากเราจะได้รับการสนับสนุน ยังเป็นประวัติที่ดีติดตัวไว้ตลอดจนเราสมัครงาน นักเรียนหลายคนไม่แม้แต่จะพยายามสมัครทุน เพราะคิดว่าตัวเองคงไม่ได้ทุน แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป น้องจะได้รับทุนการศึกษาแน่นอนหากพิสูจน์ได้ว่าเราสมควรได้รับทุน

#7 ไม่เตรียมขอ Visa & Residence permit

พลาดไม่ได้สำหรับเอกสารวีซ่า กับ Residence permit ซึ่งเป็นเอกสารที่สำคัญมากสำหรับการไปเรียนต่อจีน เช่น เมื่อเรามาเรียนต่อหลักสูตรภาษาจีนระยะสั้น 1 ปี เราต้องใช้วีซ่าประเภท X1 แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะตามกฎหมายประเทศจีนบอกว่าเมื่อไปถึงจีนแล้วเราต้องทำ “Residence permit” เพื่อให้อยู่อาศัยที่จีนได้ในระยะยาวจนเรียนจบ และสามารถเข้าออกประเทศจีนได้หลายครั้ง สิ่งนี้จะพลาดไม่ได้เพราะถ้าไม่ทำ คือ ผิดกฎหมายเลยทีเดียว