สวัสดีค่ะน้อง ๆ ที่กำลังสนใจไปเรียนต่อที่ประเทศจีน วันนี้พี่มีข้อมูลที่น้อง ๆ ควรรู้ก่อนเดินทางไปเรียนต่อ นั่นก็คือ ความแตกต่างระหว่างวีซ่า X1 และ X2 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ หลายคนอาจสงสัยว่า วีซ่าสองประเภทนี้ต่างกันอย่างไร แล้วเราควรขอวีซ่าแบบไหน? วันนี้พี่จะมาอธิบายให้น้องๆฟังกันค่ะ
1. วีซ่า X1 : สำหรับนักเรียนที่เรียนมากกว่า 180 วัน
วีซ่า X1 เป็นวีซ่าที่ออกให้กับนักเรียนที่ต้องการเรียนในประเทศจีนเป็นระยะเวลานานกว่า 180 วัน (ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป) ซึ่งรวมถึงนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และหลักสูตรภาษาจีนระยะยาว ก็จะต้องใช้วีซ่าประเภทนี้
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับวีซ่า X1:
- วีซ่านี้ที่ได้รับตอนแรกมักเป็นแบบ เข้าออกครั้งเดียว (Single Entry) เท่านั้น และต้องเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตพำนัก (Residence Permit) ภายใน 30 วัน หลังเดินทางถึงจีน
- เมื่อเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตพำนักแล้ว น้องสามารถ เข้า-ออกประเทศจีนได้หลายครั้ง ตามระยะเวลาหลักสูตร
- สามารถต่ออายุได้ หากต้องเรียนต่อหรือทำวิจัยเพิ่มเติม
เช่น น้องได้รับทุนเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นเวลา 4 ปี น้องต้องขอวีซ่า X1 และเมื่อไปถึงจีนแล้วต้องรีบทำใบอนุญาตพำนักเพื่อให้สามารถอยู่จีนได้ตลอดระยะเวลาการเรียน
2. วีซ่า X2 – สำหรับนักเรียนที่เรียนไม่เกิน 180 วัน
วีซ่า X2 เหมาะสำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนในประเทศจีนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 180 วัน (ประมาณ 6 เดือน) เช่น หลักสูตรภาษาจีนระยะสั้น หรือคอร์สฝึกอบรมระยะสั้น
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับวีซ่า X2:
- วีซ่านี้มักจะเป็นแบบ เข้าออกครั้งเดียว (Single Entry) หมายความว่า ถ้าน้องออกจากประเทศจีนก่อนจบหลักสูตร จะต้องขอวีซ่าใหม่
- ไม่ต้องทำใบอนุญาตพำนัก สามารถอยู่ในจีนได้ตามระยะเวลาวีซ่าที่ได้รับ
- หากต้องการเรียนต่อนานกว่าที่กำหนด จะต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อขอวีซ่าใหม่
- ส่วนใหญ่จะไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องขอใหม่หากต้องการเรียนต่อ
เช่น น้องลงเรียนหลักสูตรภาษาจีนระยะเวลา 4 เดือนที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น น้องจะต้องขอวีซ่า X2 และสามารถอยู่ในจีนได้ตามระยะเวลาที่กำหนด แต่หากอยากเรียนต่ออีก 6 เดือน น้องต้องเดินทางกลับไทยและขอวีซ่าใหม่
เอกสารที่ต้องเตรียมหลัก ๆ จะคล้ายกันสำหรับทั้งวีซ่า X1 และ X2 ได้แก่
1. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
2. แบบฟอร์มขอวีซ่า (JW201 หรือ JW202) จากมหาวิทยาลัย
3. หนังสือตอบรับเข้าศึกษา (Admission Notice)
4. รูปถ่ายขนาดตามที่สถานทูตกำหนด
5. ใบตรวจสุขภาพ (เฉพาะวีซ่า X1)
การเลือกวีซ่าให้เหมาะสมกับแผนการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากขอผิดประเภท อาจต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มในการแก้ไขภายหลัง น้อง ๆ ที่ต้องการเรียนระยะยาวแนะนำให้เลือก วีซ่า X1 ส่วนใครที่เรียนหลักสูตรสั้น ๆ ก็ขอวีซ่า X2 ได้เลยน้า น้องๆคนใดที่สนใจเรียนต่อจีน หรือต้องการข้อมูลและปรึกษาด้านการเรียนต่อเพิ่มเติม สามารถติดต่อพี่ CASC ได้เลยน้าา
ช่องทางการติดต่อ
โทรศัพท์ : 02-113-1119
Line Official : @casc
Facebook : เรียนต่อจีน และไต้หวันกับ CASC
Tiktok : casc_th
Instagram : casc_abroad
Twitter : casc_abroad
website : www.casc.in.th , www.123tochina.com
